วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บรูไน ดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam)

บรูไน ดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam)

 
1. ที่ตั้งและอาณาเขต
       บรูไน (Brunei) หรือ รัฐบรูไนดารุสซาลาม (State of Brunei Darussalam)ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว ทิศตะวันออก ตะวันตกและทิศใต้  ติดเขตซาราวัก ประเทศมาเลเซีย โดยพื้นที่ร้อยละ 70 เป็นป่าไม้
2.  ขนาดพื้นที่
       บรูไนมีขนาดพื้นที่  5,765 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็น 4 เขต คือ Brunei-Muara, Belait,  Temburong  และ Tutong
3.  ลักษณะทางภูมิประเทศ
     บรูไนอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว ดิน แดนของบรูไนถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยมีพื้นที่ของรัฐซาราวักของมาเลเซียกั้นไว้เป็นภาคตะวันออก และตะวันตก แม้จะเป็นดินแดนเล็กๆแต่ก็ร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย เนื่องจากมีทรัพยากรน้ำมันอยู่มาก ลักษณะภูมิประเทศประกอบด้วยที่ราบชายฝั่งทะเลและที่ราบ หุบเขาซึ่งเป็นดินตะกอนที่แม่น้ำพัดมาทับถม บริเวณที่อยู่ห่างจากชายฝั่งเข้าไปภายในเกาะ ส่วนใหญ่เป็นเนินเขา ดินแดนทางภาคตะวันออกมีลักษณะขรุขระและสูงกว่าตะวันตก
 
4.  ภูมิอากาศ  
         ในประเทศบรูไนเป็นภูมิอากาศเขตร้อน มีอุณหภูมิสูง ความชื้นสูง และ ฝนตกเกือบตลอดปี อุณหภูมิประมาณ 24 -32 องศาเซลเซียส พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้เขตร้อน อุดมด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
5.  เมืองหลวง
          บันดาร์เสรีเบกาวัน (ภาษาอังกฤษ : Bandar Seri Begawan) เป็นเมืองหลวงและเมืองท่าที่สำคัญของประเทศบรูไนอยู่ในเขตการปกครองบรูไน-เมารา มีประชากรประมาณ 60,000 คน เดิมชื่อว่า เมืองบรูไน ภายหลังเมื่อบรูไนพ้นจากการคุ้มครองของอังกฤษแล้ว จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นบันดาร์เสรีเบกาวัน
 
6.  ประชากร
          จำนวนประชากร 300,000 คน ความหนาแน่นของประชากร 52 คนต่อตารางกิโลเมตร ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลย์คือร้อยละ 68.8 ชาวจีนร้อยละ 18.3 ชนเผ่าต่างๆร้อยละ 5.0 ชาวอินเดียและอื่นๆร้อยละ 7.9
          ผู้หญิงบรูไนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีสีสดใส โดยมากมักจะเป็นเสื้อผ้าที่คลุมร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ผู้หญิงมุสลิมจะสวมผ้าคุมศีรษะในที่สาธารณะ และในสถานที่ราชการ
          ผู้ชายมุสลิม แต่งกายเป็นทางการทั้งในสถานที่ราชการ และที่สาธารณะ คือจะสวมเสื้อแขนยาว ตัวเสื้อยาวถึงเข่านุ่งกางเกงขายาวแล้วนุ่งโสร่ง 
 
7. การเมืองการปกครอง
 
บรูไน  ปกครองระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์   กำหนดให้สุลต่านทรงเป็นอธิปัตย์            คือเป็นทั้งประมุข นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นชาวบรูไนเชื้อสายมาเลย์โดยกำเนิด และจะต้องเป็นมุสลิมนิกายสุหนี่  โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัลโบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ (His Majesty Sultan HajiHassanal Bolkiah Mu’izzaddin Waddaulah)ทรงเป็นสมเด็จพระราชาฯ องค์ที่ 29                      เป็นองค์พระประมุขของประเทศตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2510 ซึ่งในปีนี้ (2551) เป็นวาระเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 62 ปี  ของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ
       นโยบายหลักของบรูไน ได้แก่การสร้างความเป็นปึกแผ่นภายในชาติ และดำรงความเป็นอิสระของประเทศ กองทัพของบรูไน (Royal Brunei Armed Forces หรือ RBAF) มีกำลังพลเพียง 7,000 นาย และกำลังสำรอง 700 นาย โดยแบ่งเป็นกองทัพบก 4,900 นาย กองทัพเรือ สุลต่านมีกองทหารกูรข่าของพระองค์เอง เรียกว่า Gurkha Reserve Unit (GRU) จำนวน 2,500 นาย และกองทหารกูรข่าของอังกฤษ (British Gurkha) รวมกำลังพล 1,000 คน ประจำอยู่ที่             เมืองเซรีอาเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย ให้แก่บ่อน้ำมัน และกิจการผลิตน้ำมันของ Brunei Shell Petroleum โดยรัฐบาลบรูไนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
เขตการปกครอง แบ่งเป็น 4 เขต (districts - daerah) คือ
      4.  เตมบูรง

 
.      8. ภาษา
          บรูไนใช้ภาษามาเลย์ (Bahasa Melayu) เป็นภาษาราชการ  ภาษาอังกฤษและภาษาจีนเป็นภาษาที่ใช้สื่อสารแพร่หลาย 
9. ศาสนา
ชาวบรูไนนับศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่ 67% รองลงมาเป็นศาสนาพุทธนิกายมหายาน 13% ศาสนาคริสต์ 10% ศาสนาฮินดู ความเชื่อพื้นเมืองและอื่นๆ